เดยัน ลอฟเรน กระตุ้นให้ผู้คนให้โอกาสผู้ลี้ภัยเพราะตัวเขาเองก็เคยอยู่ในสถานะผู้ลี้ภัยมาก่อนเช่นกัน
กองหลังลิเวอร์พูล เดยัน ลอฟเรน ขอโอกาสให้ผู้ลี้ภัยเนื่องจากเขานึกถึงประสบการณ์อันเลวร้ายในวัยเด็ก
ลอฟเรนซึ่งตอนนี้อายุ 27 ปีและครอบครัวของเขาเคยต้องหลบหนีภัยสงครามในกรุงบอสเนียเมื่อช่วงทศวรรษที่ 90
สงครามที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทั่วทวีปเอเชียในขณะนี้ ซึ่งรวมถึงซีเรียด้วย ทำให้ผู้ลี้ภัยต้องหลบหนีมาสู่ประเทศยุโรป ลอฟเรนได้ออกมาประกาศผ่านสารคดีของสโมสรว่า ประสบการณ์ ได้ให้มุมมองแก่เขาว่าทุกคนควรให้โอกาสผู้ลี้ภัย
“เมื่อผมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ลี้ภัยทุกวันนี้ มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวของผมกับครอบครัว และการปฏิบัติของผู้คนที่ไม่ต้อนรับเราสู่ประเทศของเขา” ลอฟเรนกล่าว
“ผมเข้าใจว่าทุกคนก็ต้องการที่จะปกป้องตัวเอง แต่ผู้คนเหล่านี้ไม่มีบ้านและมันไม่ใช่ความผิดของพวกเขา พวกเขาแค่ต้องการเอาชีวิตรอดและปกป้องลูกๆของพวกเขาและอนาคตของพวกเขาเท่านั้น”
“ผมเคยผ่านสิ่งเหล่านี้มา และผมก็เข้าใจในสิ่งที่บางครอบครัวกำลังเผชิญ”
“ขอโอกาสให้พวกเขา แล้วคุณจะเห็นว่าใครเป็นคนดีและใครที่ไม่ใช่”
ลอฟเรน ยังจำได้ถึงวันที่ครอบครัวต้องทิ้งทุกอย่างตอนที่ต้องลี้ภัยมายังประเทศเยอรมัน
“เราเคยมีทุกอย่าง และไม่เคยมีปัญหา เพื่อนบ้านเราเป็นคนดี ทั้งคนมุสลิม ชาวเซิร์บ ทุกคนโอภาปราศรัยและใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข อย่างที่พวกเขาต้องการ”
“แล้วสงครามก็เกิด ผมยังจำเสียงหวอได้ และผมก็กลัวขึ้นมาในทันทีเพราะผมรู้ว่าอีกสักพักมันจะต้องระเบิด”
“แม่ผมคว้าผมลงไปยังชั้นใต้ดิน ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน ผมรู้แค่ว่าหลังจากนั้น ผม แม่ ลุง และป้า ขับรถมุ่งหน้าไปยังประเทศเยอรมันเป็นเวลา 17 ชั่วโมง”
“พวกเราเหลือกระเป๋าแค่ใบเดียว และมันลำบากจริงๆ ผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าสงครามเกิดขึ้นวันนี้ ผมจะพาลูกๆหนีตายด้วยความกลัวแบบนั้นได้อย่างไร”
“มันเป็นเรื่องของชีวิต และการทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ไม่ใช่เรื่องงานหรือเงินแต่อย่างใด”